จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2307 23 มี.ค. - 26 มี.ค. 2551
เตรียมรื้อย้าย 7 ชุมชน 1,023 หลังคาเรือน เคลียร์พื้นที่เตรียมสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง Missing Link 14.5 กม. สนข.เร่งสรุปผลการออกแบบรายละเอียดจบใน เม.ย.นี้ เตรียมชงครม. ขออนุมัติก่อสร้างเร็วๆ นี้ เล็งเปิดประมูลไม่เกิน พ.ย. 51 คาดใช้เงินลงทุน 2.5 หมื่นล้านบาท นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวภายหลังการเปิดการสัมมนารับฟังความเห็นครั้งที่ 2 โครงการศึกษารูปแบบที่เหมาะสมของระบบรถไฟสายสีแดง ผ่านบริเวณสถานีรถไฟจิตรลดา และการออกแบบรายละเอียดระบบรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน หรือ Missing Link ว่า โครงการนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อการขนส่งมวลชนทางราง เพราะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างศูนย์คมนาคมพหลโยธิน คือสถานีบางซื่อ และศูนย์คมนาคมมักกะสัน ซึ่งคาดว่าจะออกแบบแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะส่งมอบรายละเอียดให้กระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติก่อสร้างโครงการต่อไป ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ และจะเริ่มก่อสร้างได้ต้นปี 2552 ทั้งนี้ ในการสัมมนา กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาได้นำเสนอรูปแบบของโครงการในแนวเหนือ-ใต้ ว่าเป็นโครงสร้างเริ่มจากระดับดินที่บริเวณสถานียศเส ลอดใต้สะพานกษัตริย์ศึกข้ามคลองมหานาค ในระดับดิน แล้วจะเปลี่ยนเป็นโครงสร้างแบบคลองแห้งลอดผ่านถนนเพชรบุรี โดยจะยังคงสะพานข้ามทางแยกยมราชไว้ แล้ววิ่งลอดถนนศรีอยุธยา ถนนราชวิถี คลองสามเสน ถนนนครชัยศรี ถนนเศรษฐศิริ ถนนระนอง 1 แล้วยกระดับรางขึ้นเชื่อมกับทางรถไฟยกระดับสายรังสิต-บางซื่อ ส่วนอีกเส้นทางหนึ่ง เป็นแนวตะวันออก-ตะวันตก เริ่มจากสถานีมักกะสัน เป็นโครงสร้างยกระดับ ที่เชื่อมทางรถไฟยกระดับสายสีแดงช่วงหัวหมาก-มักกะสัน และจะลดระดับข้ามคลองมักกะสันแล้วเปลี่ยนเป็นโครงสร้างชนิดคลองแห้ง ลอดสะพานทางด่วนสายเฉลิมมหานครถนนราชปรารภ ถนนพญาไท บริเวณสถานีพญาไท ลอดผ่านถนนพระราม 6 ถนนศรีอยุธยา เพื่อบรรจบกับแนวเหนือ-ใต้ รวมระยะทาง 14.5 กิโลเมตร มี 5 สถานี คือ สถานียศเส เป็นสถานีระดับดิน ส่วนอีก 4 สถานี คือ สถานียมราช สถานีพญาไท สถานีราชวิถี และสถานีสามเสน จะเป็นสถานีใต้ดิน ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษายังได้สรุปข้อมูลเบื้องต้นด้วยว่า ตลอดแนวเส้นทางโครงการจะไม่มีการเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากจะก่อสร้างในแนวเส้นทางรถไฟที่มีอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ดี จะต้องมีการโยกย้ายชุมชนที่อยู่ในแนวเขตทางออกจากพื้นที่ด้วยรวม 7 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว ชุมชนหลังบ้านมนังคศิลา ชุมชนคลองส้มป่อย ชุมชนโค้งรถไฟยมราช ชุมชนหลังกรมทางหลวง ชุมชนซอยดงบุหงา ชุมชนสระแก้ว และชุมชนหลังโรงพยาบาลเดชา รวมจำนวนครัวเรือน 1,023 หลังคาเรือน สำหรับมูลค่าการลงทุนนั้น ประเมินในเบื้องต้นว่าต้องใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 25,106.8 ล้านบาท แบ่งเป็นค่างานโยธา อาคารและสถาปัตยกรรม 14,935.5 ล้านบาท งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล 1,738 ล้านบาท ค่าจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้า 4,980 ล้านบาท ค่าบริหารโครงการ 799 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 1,571.7 และค่าเผื่อเหลือเผื่อขาดอีก 1,062.7 ล้านบาท โดยจะใช้เวลาในการดำเนินการ 4 ปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2552 จะแล้วเสร็จในปลายปี 2554 และจะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงต้นปี 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น