ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3922 (3122)
นับถอยหลังจากนี้ไปถึงสิ้นปี การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ตั้งเป้าจะเข้ารื้อย้ายสิ่งกีดขวางตามแนวเส้นทางรถไฟสายใต้ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนที่บุกรุกอยู่ริมทางนับสิบๆ ปี ป้ายโฆษณา สาธารณูปโภค และสัญญาเช่าต่างๆ เพื่อเคลียร์พื้นที่ให้ผู้รับเหมาเข้าไปก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่มีกำหนดก่อสร้างตั้งแต่เดือนมกราคม 2551 เป็นต้นไป
ว่ากันว่างานนี้เป็นงานหินไม่แพ้ "โครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์" ซึ่งการรถไฟฯ ได้รับบทเรียนมาเต็มๆ จนเป็นที่มาของเรื่องวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามมา และเป็นต้นเหตุให้งานก่อสร้างล่าช้า ทำให้ผู้รับเหมาคือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) นำมาเป็นข้ออ้างขอขยายเวลา กลายเป็นบาดแผลฝังลึกที่การรถไฟฯ คงจดจำมิรู้ลืม
เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ล่าสุดการรถไฟฯ ปรับแผนใหม่ ด้วยการโยนเรื่องการรื้อย้ายทั้งหมดให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นผู้รับผิดชอบ โดยจะกำหนดลงไปในร่างทีโออาร์ที่จะใช้เปิดประมูล โดยการรถไฟฯมีหน้าที่เพียงแค่ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการสำรวจว่าตลอดระยะทาง 15 กิโลเมตร ทั้ง 2 ข้างทาง จะต้องรื้อย้ายมากน้อยแค่ไหน
เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า โครงการนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้พื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด 2 ข้างทาง การรถไฟฯจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน แต่ตลอดเส้นทางมีผู้บุกรุกที่อยู่อาศัยมานานเกือบเต็มพื้นที่ จึงไม่หมูที่จู่ๆ จะเข้าไปทวงที่ดินคืน
"การที่เราให้ผู้รับเหมาเป็นผู้รื้อย้ายทั้งหมด โดยเหมาเข้าไปในสัญญาก่อสร้าง เพราะเอกชนดำเนินการจะมีความคล่องตัวกว่า เนื่องจากการรื้อย้ายผู้บุกรุกไม่มีกฎหมายมารองรับเหมือนกับการเวนคืนที่ดิน ทางราชการจะใช้ไม้แข็งก็ไม่ได้ ตอนที่ลงไปสำรวจพื้นที่ชาวบ้านก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ คิดว่าให้เอกชนทำจะดีกว่า ผู้รับเหมาจะรื้อเองหรือจ้างคนอื่นมาทำก็ได้" แหล่งข่าวจากการรถไฟฯกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
และบอกว่าหลังจากที่มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างแล้ว การรถไฟฯจะส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาทันที โดยจะส่งมอบตามสภาพที่เป็นอยู่จริง บริเวณไหนเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ก็สามารถที่จะทำการก่อสร้างไปก่อนได้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ส่วนพื้นที่บริเวณใดจะต้องมีการรื้อย้ายชุมชน ก็ทำการรื้อย้ายควบคู่กันไป
"ตอนนี้เราได้ทำป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ชั่วคราว ไปติดตั้งตามชุมชนต่างๆ แล้ว เพื่อให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่าการรถไฟฯมีโครงการจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง"
แหล่งข่าวกล่าวว่าจากการสำรวจของบริษัท เทสโก้ จำกัด บริษัทที่ปรึกษา ตลอดแนวเส้นทางมีชุมชนที่จะต้องรื้อย้าย จำนวน 18 ชุมชน มีอาคารสิ่งปลูกสร้างของชุมชนที่กระจายอยู่ตามเขตทางรถไฟ จำนวน 3,001 หลังคาเรือน เป็น ผู้อยู่อาศัยแบบมีสัญญาเช่ากับการรถไฟฯ จำนวน 129 สัญญา สัญญาเช่าที่ดินกับส่วนราชการ อีก 500 กว่าสัญญา อาทิ กรมทางหลวง การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง กรุงเทพ มหานคร ที่เหลือเป็นผู้บุกรุกที่ดินของการรถไฟฯ
ประกอบด้วย ชุมชนโชติวัฒน์ จำนวน 59 หลังคาเรือน ชุมชนบึงฝรั่ง จำนวน 46 หลังคาเรือน ชุมชนสุขสันต์ จำนวน 25 หลังคาเรือน ชุมชนสุดซอยสมถวิล จำนวน 209 หลังคาเรือน ชุมชนสะพานดำ (บางซื่อ) จำนวน 189 หลังคาเรือน ชุมชนรอยยิ้มประยูรพัฒนา จำนวน 42 หลังคาเรือน ชุมชนสีน้ำเงิน จำนวน 460 หลังคาเรือน ชุมชนวัดเสาหิน จำนวน 36 หลังคาเรือน ชุมชนพระราม 6 จำนวน 174 หลังคาเรือน
ชุมชนแพริมน้ำพระราม 6 จำนวน 94 หลังคาเรือน ชุมชนมงคลสุขและอเมซอน จำนวน 60 หลังคาเรือน ชุมชนริมทางรถไฟ (บางอ้อ) จำนวน 179 หลังคาเรือน ชุมชนวัดเพลง จำนวน 56 หลังคาเรือน ชุมชนวัดพิกุล จำนวน 90 หลังคาเรือน ชุมชนสะพานดำ (ตลิ่งชัน) จำนวน 181 หลังคาเรือน ชุมชนริมทางรถไฟชัยพฤกษ์ จำนวน 369 หลังคาเรือน ชุมชนตลิ่งชัน จำนวน 37 หลังคาเรือน ชุมชนฉิมพลี จำนวน 31 หลังคาเรือน
ส่วนผู้มีสัญญาเช่ากับการรถไฟ จำนวน 129 สัญญา ปัจจุบันเป็นทั้งที่พักอาศัย ร้านค้า อู่ซ่อมรถและบริษัท อาทิ นายสงวน ธานีพานิชสกุล นายสมพงษ์ ชัยวัฒนธรรม บริษัท ปิรามิค คอนสตรัคชั่น จำกัด นางนิตยา สารัตคุณ นางเพ็ญศรี ศักดิ์ศรีสนอง นายประพันธ์ ศักดิ์ศรีสนอง นายอุดมสิน หาญเมธี นางเชาวนาถ เลาห์ไพโรจน์ นางไพลิน เลาห์ไพโรจน์ นางดรุณี ก้องบุญเกียรติ นายสมบุญ พิศแก้ว นายชำนาญ ยุทธวงศ์ นายสุวัฒน์ แสวงวิทย์ นายจักริน จันทรวิสูตร นางวาสนา ส่งตระกูล นางช่อผกา แสงนุกูลชัย นายชัพพงษ์ แสงนุกูลชัย นางพฤดา ขาวประเสริฐ บริษัท สินพัฒนา จำกัด นายชุมพล โสภณโชติสมบูรณ์ นายต่อบุญ จันทร์วิสูตร หจก.แกมมาโก้ นางสุภา เนื่องนิยม
นางวาสนา สงวนบุญ นายณัฐจักร์ กุดภูเขียว นายเรืองณรงค์ เติมรังษี นายณรงค์ ดิสจาริกิตติ นายวิวัฒน์ วงษ์จารีกิต นายสุรพล สุธีระเวชช์ นายกิจบดี ทองบริสุทธิ์ นางณิชยา ดิสกรัตน์อำพล นายสมหมาย สุภาวิมล นายศหลิน เดียวสุรินทร์ นายจิรยุทธ์ อัมพรพะงา นางอรวรรณ สุระประสิทธิ์ นายสุกิจ ลำปาเงิน นางดวงสมร ธาปนพงษ์ไพบูลย์ นายสมชาย ศรีประเสริฐ นายสมศักดิ์ ว่องไว นางสมพิศ เลือกแก้ว นายณสน สมพร
นางนารี พงษ์จันทร์ นางสาวอรอนงค์ น้อยเสวก นายบรรพต สุขพรสินชัย นายกิมไฮ้ แซ่เฮี้ยว นางสาวสุมาลี แซ่หล่อ นายอาทิตย์ ทิพยทวี นางสาวธัญภา พรหมมาศ นางสาว กาญจนี ใจยา นางบุญชู จันทศรี นางช้อย โพธิรัตน์ นายปิยนุช จันทร์วงศ์สกุล นายกิ แซ่ลี บริษัท ชา-ติยา ดิสทริบิวชั่น นางสุภาภรณ์ หาญกลาง นางสะเบียง มั่นคง นายพงษ์รัตน์ เกียรติพวงชัย นางเสียงิ้ม แซ่เล้า นายพิชิตโชค ขันข่าง นายบุญมี จันทร์ทร นางมาลี เชาว์สุขุม เป็นต้น
สำหรับผู้ที่มีสัญญาเช่า การรถไฟฯ จะบอกเลิกทั้งหมด ซึ่งได้เริ่มทยอยบอกเลิกบ้างแล้ว มีทั้งที่กำลังจะหมดสัญญา และยังไม่หมดสัญญา โดยผู้ที่ยังไม่หมดสัญญาจะจ่ายค่าเสียโอกาสให้ นอกเหนือจากค่ารื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และค่าเสื่อมราคาปีละ 2% แล้ว ส่วนผู้บุกรุกจะชดเชยให้แค่ค่ารื้อถอนเพียงอย่างเดียว 10-20% ของค่าก่อสร้าง ซึ่งค่าก่อสร้างจะถอดแบบและประเมินราคาตามวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง บวกค่าแรงอีก 30% ของราคาสิ่งปลูกสร้าง โดยใช้งบประมาณรื้อย้าย 1,758 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผู้อยู่อาศัยที่จะถูกรื้อย้าย มี ข้อเสนอแนะและความต้องการเสนอให้การรถไฟฯ พิจารณาด้วย เช่น ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่มากกว่าค่าชดเชยหรือค่ารื้อย้าย ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่เดิม เพราะไม่อยากปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ เป็นต้น
คงต้องเริ่มนับหนึ่งไปพร้อมๆ กับการรถไฟฯ ด้วยใจระทึกว่า การรื้อย้ายจะประสบความสำเร็จหรือมีปัญหาตามมาเหมือนกับที่เคยเกิดขั้นมาแล้ว
ดูเหมือนโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงยังไม่ทันเริ่มต้น ที่หวั่นๆ กันว่าจะมีปัญหาก็เริ่มมองเห็นรางๆ แล้ว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น