วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สีแดงบางซื่อ-รังสิตรุกฆาต! 3ชุมชน232หลังคาต้องย้าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2228 21 มิ.ย. - 23 มิ.ย. 2550


จี้แจ้งเกิดสายสีแดงช่วง "บางซื่อ-รังสิต "ปู่ห้าว" กำชับสนข. ปรับแบบ ขออนุมัติก่อสร้าง ให้ทันในรัฐบาลชุดพล.อ.สุรยุทธ์ เผยผลการศึกษาแนวสายทาง 26 กม.ของรฟท.พบ 3 ชุมชนต้องย้ายหนี รวม 232 หลังคาเรือน พร้อมเร่งคิดแผนซื้อรถไฟฟ้าคาดล็อตแรก 70 ตู้ ขณะที่ สนข. เร่งจ้างกลุ่มบริษัท "เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง" ผู้ออกแบบชุดเดิมมาสานงานต่อ ให้จบทันเสนอเข้าครม.กลาง พ.ย.50


จากการลงสำรวจพื้นที่เส้นทางก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิต ของ พล.ร.อ. ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นั้น รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การปรับแบบโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดง ช่วง บางซื่อ-รังสิต คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการอีกประมาณ 4 เดือนจะแล้วเสร็จ หรือภายในเดือน ตุลาคมนี้จะสามารถเสนอรายละเอียดโครงการต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติก่อสร้างพร้อมทั้งขอปรับเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างได้

พล.ร.อ.ธีระกล่าวต่ออีกว่า ในอนาคตเมื่อมีการพัฒนาโครงข่ายทั้งหมดแล้ว บริเวณสถานีบางซื่อและสถานีมักกะสัน จะกลายเป็นศูนย์ขนส่งรวมของระบบราง ทั้งรถไฟฟ้าชานเมือง รถไฟสายใต้ และสายเหนือ โดยจะลดบทบาทของสถานีหัวลำโพงลง ซึ่งการรถไฟฯ จะต้องศึกษาเพื่อวางแผนแม่บทการพัฒนาสถานี รองรับการเดินทาง ผู้โดยสาร การเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนรูปแบบต่างๆ ให้ดี และเป็นระบบที่สมบูรณ์ ส่วนการพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ นั้น จะทำได้เมื่อมีพื้นที่เหลือจากการพัฒนาอย่างเพียงพอแล้ว

ขณะที่ นายบัญชา คงนคร รองผู้ว่าการฯ และรักษาการ ผู้ว่าการรถไฟฯ ยืนยันว่า การก่อสร้างสถานีบางซื่อ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของโครงการระบบราง สายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน กับช่วงบางซื่อ-รังสิต จะแล้วเสร็จทันต่อแผนการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน อย่างแน่นอน แม้ว่าแผนงานก่อสร้างสถานีบางซื่อ จะรวมอยู่ในโครงการของช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับแบบ และคาดว่าจะเริ่มประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างได้ในช่วงกลางปี 2551 และ จะเร่งให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเริ่มก่อสร้างย่านสถานีบางซื่อเป็นลำดับแรกก่อน

ด้าน นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน การรถไฟฯ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างศึกษาและเตรียมแผนการจัดซื้อรถไฟฟ้า ซึ่งต้องรอความพร้อมในการตั้งบริษัทลูกของการรถไฟฯ ขึ้นมาดูแลด้านการเดินรถไฟฟ้า โดยจะกำหนดสเปคตัวรถไฟฟ้า ระบบอาณัติสัญญาณ เพื่อเสนอขออนุมัติงบลงทุนเพิ่มเติม ในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้รถไฟฟ้าประมาณ 70 ตู้ และจะต้องสั่งผลิตภายในปี 2552 เพื่อให้ทันการเปิดเดินรถในปี 2554-2555

สำหรับรายละเอียดโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร จะมีทั้งโครงสร้างทางยกระดับ และโครงสร้างระดับดิน โดยทางยกระดับออกจากสถานีบางซื่อ ไปทางด้านสถานีขนส่งหมอชิต 2 ผ่านจตุจักร วัดเสมียนนารี กิโลเมตรที่ 12+050 ผ่านสถานีรถไฟบางเขน กิโลเมตรที่ 13+025 ผ่านแยกงามวงศ์วาน อาคารยูคอม อุโมงค์นอร์ทปาร์ค (North Park) โรงแรมมิราเคิล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ สถานีรถไฟหลักสี่ และวิ่งข้ามแยกถนนแจ้งวัฒนะ ผ่านการเคหะทุ่งสองห้อง ดอนเมือง ถนนเชิดวุฒากาศ ธนาคารไทยพาณิชย์ สถานีรถไฟดอนเมือง และสน.ดอนเมือง

ทั้งนี้เมื่อถึงหน้า สน.ดอนเมือง แล้วทางรถไฟจะลดลงสู่ระดับดิน ผ่านสะพานข้ามทางรถไฟเกษมอุดมพันธุ์ ตรงไปจนถึงสถานีรถไฟรังสิต และสิ้นสุดแนวเส้นทางที่กิโลเมตรที่ 32+350 โดยตลอดแนวเส้นทางผ่านนั้น จะมีชุมชนบุกรุกในเขตทางรถไฟ 3 ชุมชน รวมจำนวนที่คาดว่าจะต้องรื้อย้ายออก 232 หลังคาเรือน ประกอบด้วย ชุมชนหลักหก 152 ครัวเรือน ชุมชนเลียบทางรถไฟใกล้สถานีคลองรังสิต 25 หลังคาเรือน และชุมชนคอกวัว 55 หลังคาเรือน

ในด้านขนาดของรางรถไฟนั้นจะใช้ขนาด 1.00 เมตร (Meter Gauge) จำนวน 3 ทาง โดยตลอดแนวเส้นทางจะผ่าน 5 สถานีสำคัญ คือ สถานีบางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง และสถานีรังสิต โดยสถานีบางซื่อจะมีความสำคัญที่สุดเนื่องจากจะมีศูนย์ซ่อมบำรุง (DEPOT) ทั้งยังเป็นสถานีเชื่อมต่อระหว่างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ด้วย

นอกจากนี้ ยังได้ออกแบบโครงสร้างถนนเลียบทางรถไฟ (Local Road) โดยจะเริ่มต้นที่สถานีบางซื่อ วิ่งเลียบขนานแนวเส้นทางด้านทิศตะวันตก ผ่านสถานีบางเขน หลักสี่ หลังจากนั้นย้ายฝั่งไปทางทิศตะวันออก วิ่งผ่านสถานีดอนเมือง แล้วย้ายไปฝั่งตะวันตก จนสิ้นสุดแนวเส้นทางที่สถานีรังสิต อีกทั้งออกแบบโครงสร้างสะพานข้ามถนนเลียบทางรถไฟไว้ 2 จุด ได้แก่ บริเวณทางผ่านเปรมประชา และบริเวณซอยพหลโยธิน 87 ด้วย

นายอารักษ์ กล่าวยืนยันอีกว่าเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะใช้ประโยชน์เพื่อการเดินรถไฟสายเหนือ รองรับการเดินรถที่มีอยู่ในปัจจุบันวันละ 75 ขบวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยลดระยะเวลาการจราจรที่ติดขัดบริเวณทางรถไฟตัดกับถนนได้ถึง 8 จุด และใช้ประโยชน์เพื่อการเดินระบบรถไฟชานเมืองได้อีกด้วย โดยเมื่อเปิดเดินรถไฟฟ้าแล้ว จะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารจากรังสิตเข้าสู่บางซื่อได้ไม่น้อยกว่า 272,500 คน/วัน และเมื่อขยายโครงการจากบางซื่อไปมหาชัยแล้วจะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารที่คาดว่าจะมีประมาณ 400,000 คน/วัน และที่สำคัญยังสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างโฮปเวลล์ได้อีกด้วย

ส่วนการลงทุนนั้น คาดว่าในเบื้องต้นจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 52,220 ล้านบาท จำแนกเป็น ค่ารื้อย้ายชุมชน 25 ล้านบาท, ค่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อจัดประกวดราคา บริหารโครงการ และควบคุมงาน 1,920 ล้านบาท, ค่างานก่อสร้างช่วงบางซื่อ-รังสิต 14,324 ล้านบาท, ค่างานก่อสร้างสถานีรถไฟบางซื่อ ศูนย์ซ่อมบำรุงและย่านสถานี 19,570 ล้านบาท, ค่างานระบบเครื่องกล-ไฟฟ้า ช่วงบางซื่อ-รังสิต รวมสถานีรถไฟบางซื่อ ศูนย์ซ่อมบำรุงและย่านสถานี (รวม Track Work) และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน (ไม่รวม Track Work) 16,381 ล้านบาท (สนข.อยู่ในระหว่างปรับแบบรายละเอียด และออกแบบสถานีรายทางเพิ่มเติมอีก 4 สถานี คือ สถานีจตุจักร สถานีวัดเสมียนนารี (สำหรับพวกอยู่ประชานิเวศน์ 1) สถานีทุ่งสองห้อง (สำหรับ North Park) และสถานีการเคหะ (สำหรับคนอยู่แฟลตการเคหะและลูกค้าเจ๊เล้ง) เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น )

ขณะเดียวกันสนข. ก็อยู่ระหว่างขออนุมัติจ้างที่ปรึกษาปรับปรุงแบบผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม ภายใต้กรอบวงเงินว่าจ้าง 94 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ดำเนินการคือ กลุ่มบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ออกศึกษารายละเอียดเดิมอยู่แล้วคาดว่าจะลงนามในสัญญาและเริ่มงานได้ในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ดีคาดว่าการปรับแบบจะดำเนินการได้ทันแผนงานการก่อสร้าง ที่ การรถไฟฯ ประเมินไว้ ว่าจะเสนอรายละเอียดโครงการทั้งหมดเข้าสู่ครม. ราวเดือนพฤศจิกายน2550เพื่อขออนุมัติ จากนั้นในเดือน มกราคม2551 จะประกาศประกวดราคา และเปิดให้ผู้ที่สนใจยื่นซองในช่วงปลายเดือน พฤษภาคม2551 คาดว่าจะประเมินราคา/เสนอราคา/เจรจาเสร็จสิ้น ได้กลางเดือน กรกฎาคม2551 และทำสัญญาได้ต้นเดือน สิงหาคม2551 แล้วเริ่มก่อสร้างได้ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปี 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น